เสียงเครื่องยนต์จากบีเอ็มดับบิวสีดำขลับดังขึ้นก่อนที่มันจะแล่นหายไปในความมืด
เหลือทิ้งไว้เพียงความทรงทำที่แทบแหลกสลายของชายหนุ่มที่ต้องรอคอยใครซักคนอย่างทรมาน
สิ่งที่เค้าจะทำได้ก็แค่เพียงกอดเก็บความทรงจำที่ดีที่สุดเอาไว้ในห้วงลึกของหัวใจ สัมผัสแผ่วเบาเมื่อครู่จากร่างบาง
แม้จะเปรียบเหมือนสายลมที่พัดผ่านเข้ามาเพียงชั่วครู่แต่ก็ทำให้หัวใจที่อ่อนล้ากลับเต้นแรงอย่างน่าประหลาด.................
‘ผมอยากจะดึงคุณเข้ามากอดใจแทบขาด ตลอดสองปีที่ผ่านมา ผมได้แค่เฝ้ามองคุณเดินผ่านมาแล้วก็จากไป นี่คงเป็นอีกวันหรือทุกๆวันต่อจากนี้ก็คงจะเป็นเช่นนั้น’ร่างสูงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นลายตารางหมากรุกในห้องครัว ดวงตาสีเพลิงปิดลงช้าๆอย่างอ่อนแรง…………….
ในขณะที่อีกคน กำลังมีความสุขกับการได้รับดอกกุหลาบสีแดงช่อใหญ่ ดวงหน้าหวานที่เปื้อนยิ้มน้อยๆ ส่งยิ้มหวานให้หนุ่มแว่นก่อนจะ เขย่งตัวขึ้นไปจุมพิตเบาๆที่แก้มของอีกฝ่าย
“ขอบคุณนะวิลเลี่ยม^^”ร่างบางกล่าวขอบคุณผู้เป็นคนรัก
“เพื่อคุณแล้ว อะไรที่ผมทำได้ผมก็ยินดีครับ”หนุ่มแว่นเจ้าระเบียบพูดขึ้นก่อนจะสวมกอดร่างบางแนบแน่น ภายใต้แสงไฟจากลอนดอนอาย
“คุณมีความสุขมั้ยครับจิเอล”ประโยคที่เคยถูกอีกคนถามเมื่อไม่นานดังขึ้นจากปากของคนรัก
“เอ่อ…. ผมอืม ก็มีความสุขดีครับ”ร่างบางอึกอักทันทีที่นึกถึงสีหน้าของชายหนุ่มรูปหล่อเจ้าของร้านเค้กคนนั้น ในใจกลับนึกเป็นห่วงเค้าอย่างบอกไม่ถูก ภาพที่ดูเหมือนชายคนนั้นเจ็บจนแทบขาดใจยังคงประดังประเดเข้ามาไม่จางหาย
“เป็นอะไรไปครับ”
“อ่ะเอ่อ เปล่า ผมไม่เป็นไร ผมอยากกลับบ้านแล้ว คุณช่วยไปส่งผมทีสิ”ร่างบางที่ถือช่อดอกไม้บอกก่อนจะเดินนำผู้เป็นคนรักไปยังรถ
ระหว่างทางบรรยากาศที่ขามามีเพียงแค่ความสุขที่เอ่อล้นหัวใจ แต่บัดนี้ความสุขที่ว่านั่นหายไปไหนหมดนะ แค่นึกถึงภาพของคนๆที่แม้แต่ไม่รู้จักชื่อ แต่ทำไมมันทำให้หัวใจเขาเองปวดปลาบขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
‘จะว่าไป ตัวผมเองเคยประสบอุบัติเหตุรถชนเหมือนกันกับคนรักของชายคนนั้น อืมแต่ผมก็โชคดีที่ผมมีวิลเลี่ยมคอยดูแล เค้าคงเป็นคนรักที่เพอร์เฟ็คที่สุดเลยล่ะครับ’ร่างบางคิดในใจก่อนจะเอนตัวไปอิงกับร่างสูงที่กำลังขับรถอยู่จนเผลอหลับไปในที่สุด
เมื่อถึงบ้านหลังใหญ่ที่บัดนี้มีเพียงร่างบางและคนรับใช้อยู่ ผู้เป็นบิดาและมารดาเดินทางไปทำธุรกิจที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง จึงฝากฝังจิเอลไว้กับวิลเลี่ยมลูกชายของเพื่อนสนิท
“ถึงบ้านแล้วครับ”ร่างสูงหันมาหาคนตัวเล็กที่ซบอยู่กับไหล่
“หลับซะแล้ว”วิลเลี่ยมลงจากรถและอ้อมมาเปิดประตูฝั่งคนนั่งจากนั้นจึงค่อยๆช้อนตัวร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพาขึ้นไปส่งยังห้องนอน
ก่อนจะค่อยๆวางคนตัวเล็กลงบนที่นอนสีขาวสะอาดตา
ร่างบางรู้สึกตัวตื่นขึ้นก่อนจะยันกายลุกขึ้นนั่งพิงกับหัวนอน วิลเลี่ยมนั่งลงบนที่นอนข้างๆร่างบางก่อนจะเชยคางมนๆของคนตัวเล็กขึ้นมาสบตากัน
แล้วบรรจงประทับจุมพิตที่ริมฝีปากสีสวยของคนตรงหน้า ลิ้นร้อนหยอกเหย้ากันอย่างรู้หน้าที่ ขณะที่มือหนาดันร่างบางให้นอนลงกับที่นอน.......................
จมูกโด่งได้รูปไล้ไปตามซอกคอเพื่อสูดดมความหอมอันน่าหลงใหลจากคนตรงหน้า กระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวของคนตัวเล็กถูกปลดออกทีละเม็ดช้าๆ เผยให้เห็นผิวกายขาวเนียนชวนน่าสัมผัสและลิ้มรส……
ช่างเป็นช่วงเวลาที่หลายๆคนที่มีความรักคงจะมีความสุขอิ่มเอมเต็มหัวใจ แต่คงไม่ใช่กับเซบาสเตียน………
เสื้อผ้าอาภรณ์ที่บดบังผิวขาวดุจหิมะยามหน้าหนาวถูกถอดออกอย่างง่ายดาย
“ขอให้ผมได้รักคุณมากกว่านี้นะครับจิเอล”วิลเลี่ยมพูดก่อนจะก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากบางอีกครั้ง...............................
TBC..........................
......................................
....................................................
........................................................................
อืม อยากเอามาลงเพราะสงสารแม่ยกเซบาส ฮ่าๆๆ ที่สำคัญสงสารตัวเองมากกว่า เพราะไรท์เตอร์เองก็เป็นแม่ยกคุณพ่อบ้านเหมือนกันค่ะ พอมาแต่งแนวดราม่าก็สงสารเค้าเหมือนกันนะคะเนี่ย
ตัดฉับแบบว่าคงไม่น่าให้อภัยใช่มั้ยคะ ช็อตฟิคเรื่องนี้แอบยาวอยู่น๊า ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะคะ^^